ภูเก็ต..เป็นเมืองนอกสายตามาตลอด เพราะความรู้สึกบอกว่าค่าใช้จ่ายคงสูงในการเดินทางและการดำรงชีวิตตะลอนในเมืองภูเก็ตคงไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่เมื่อโอกาสมาถึงแค่เอื้อม ฉันก็ไม่รีรอที่จะรับมันไว้ ขอสารภาพว่า ไม่ได้ทำการบ้านเกี่ยวกับภูเก็ตเลยแม้แต่น้อย ไปตามยถากรรมเลยก็ว่าได้
ตื่นเต้นพิลึกกับการเหินฟ้ากับสายการบินครั้งแรก วุ่นวายกับการเตรียมตัวเช็คอิน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงไปตรงไหนทำอะไรบ้าง มันจะง่ายเหมือน บขส.ไหม๊ เพราะปกติฉันใช้บริการ ขนส่งสายใต้ กับ ขนส่งหมอชิต ตลอดชีวิตการเดินทางบ้าเลือด สองปีนี้ มีคนบอกว่าทุกคนต้องมีครั้งแรก ....
ความสะดวกสบายของสารการบินก็คือถึงที่หมายได้รวดเร็วทันใจ ฉันจึงมีเวลานอนตีพุงอยู่ที่ภูเก็ตถึงสองคืน ไม่ต้องไปเสียเวลานอนบนรถข้ามคืนเหมือนคราวก่อนๆที่เดินทาง รู้งี้ ใช้บริการซะตั้งนานแล้วน่ะนี่ แต่ก็อย่างว่า ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่า บขส.หลายเท่าเลย ...
มาถึงภูเก็ตด้วยอาการมึนๆ ไม่รู้จักเมืองไม่มีข้อมูล เป็นไงหล่ะนักเดินทางตัวยง มืดแปดด้านเหมือนกัน ฉันได้แผนที่ภูเก็ตมา 1 ใบ ใช้เป็นไกค์ในการนำทางครั้งนี้ เช้าของวันเสาร์ ไปเริ่มต้นที่หาดป่าตอง หาดชื่อดังในภูเก็ต พอไปถึงเขตป่าตอง สิ่งที่เห็นนั่นก็คือ เมืองที่มีแต่นักท่องเที่ยว ผับ บาร์เหล้า ผู้หญิง อารมณ์พัทยานั่นหล่ะ ฉันเลยรู้ตัวว่าเซ็งละ มาผิดที่แท้ๆ อ่อลืมบอกไปฉันแยกออกมาเที่ยวคนเดียวตลอดเวลาสองวันที่ภูเก็ต ในกระเป๋ามีกล้องถ่ายรูป สมุดบันทึก โปสการ์ด เดินตระเวนหาที่พัก และทบทวนการวางแผนผิดในครั้งนี้ .. คอฟฟี่เวิล ที่คาร์ฟูป่าตอง เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการนั่งนานๆ และเย็นๆ
ฉันมีโอกาสได้รู้จักเพื่อนใหม่ สามคน ซึ่งไม่อยากจะบอกให้คนบางคนน้อยใจเลยว่าฉันเกาะตะลอนๆกับสามคนนี้เป็นปลิง สาวโน๊ตซึ่งหน้าตาอ่อนกว่าอายุมากมาย หนุ่มโจหนุ่มน้อยซึ่งหน้าตาก็ทรยศอายุเช่นกัน และก็พี่มิก อันนี้ไม่มีความเห็น แต่พี่แกฮาได้ใจมากๆ เจอแกแล้วคิดถึงเพื่อนเราบางคน นี่ถ้ามาเจอกันหละก็ คงได้ฮากันกรามค้างเป็นได้ สองหนุ่มมาทำงานที่ภูเก็ต เป็นไซค์งานที่ โรงแรมไรสักอย่างนี่หละไม่ได้ถามมา แต่เมื่อตี้ซี้แล้ว ก็ขอติดสอยห้อยตามไปเที่ยวกับเค้าทั้งสามคนด้วย โดยที่ฉันก็ลืมไปว่าฉันมากับใคร? อิอิ...
 |
ค่ำคืนวันลอยกระทง ในเมืองภูเก็ตหลายๆหาดจัดงานประเพณี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โปรแกรมของช่วงเย็นนี้ก็คือ ไปดูพระอาทิตย์ตก ที่แหลมพรหมเทพ เพื่อนใหม่มารับฉันที่ห้องพักเวลาเย็น เกือบๆจะห้าโมงขอบคุณหลายๆ ที่มีน้ำใจ เพราะถ้าลำพังตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะไปยังไงดี ... จากโรงแรมที่พักไป แหลมพรหมเทพเป็นระยะทาง 18 กม. ทุกคนในมือจะถือแผนที่ และจอดรถดูแผนที่กันตลอดทาง นี่ขนาดพวกนี้มาทำงานที่ภูเก็ตน่ะนี่ แล้วมือใหม่อย่างฉันถ้าตะลอนคนเดียวก็คงหลงหาทางกลับโรงแรมไม่เจอแน่นอน
|
ถึงแหลมพรหมเทพ ทันเวลาพระอาทิตย์กำลังสวย แต่คนเยอะมากมาย และเมฆก็เยอะมากเช่นกัน ไปเดินๆถ่ายรูปกับเพื่อนใหม่นิดๆหน่อยๆ แล้วก็ลื่นล้มไปหนึ่งทีได้แผลที่มือมาฝากทุกคนด้วย ... เป็นอย่างนี้ทุกทีเวลาไปเที่ยว ซุ่มซ่ามไม่มีใครเกิน ฉันกับเพื่อนใหม่ นั่งดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพอยู่พักใหญ่ๆ พระอาทิตย์หลบเมฆไปแล้ว ท้องก็เริ่มหิว ขับรถลงมาจากแหลม แวะที่หาดราไว หาร้านซีฟู๊ด อร่อยๆนั่งกินกัน ก็ไปได้ที่ร้าน น้องพิม ตามคำบอกเล่าของคนพื้นที่ ที่เราไปตะเวนถามมาตั้งแต่หัวหาด
เพื่อนใหม่บอกว่า มาภูเก็ตไม่ได้ทานหอยชักตีน ถือว่ามาไม่ถึง ปกติฉันเป็นคนไม่กินของพวกนี้ เพราะคิดว่ามันคาว แต่ก็จำใจลอง เด่วเพื่อนใหม่จะหาว่าเราไม่ใจ ง่ำๆๆ อร่อยดีเหมือนกันน่ะนี่ จานแล้วจานเล่ายกมาเสริฟ เราสี่คนกินกันไม่เหลือ ปูเผา หอยชักตีนย่าง ปลาหมึกย่าง ฯลฯ บรรยากาศริมทะเลในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงเช่นนี้ มันทำให้ลืมความวุ่นวายของเมืองหลวงไปได้ชั่วขณะ พอได้มองเห็นเรือประมงใกล้ฝั่งจอดอยู่บ้าง แต่ฟ้าสว่างสวยงามมาก
ออกจากร้านน้องพิม เราสี่คนไปเดินหาซื้อโคมยี่เปง มาลอยกันบ้าง ราคา 150 บาท เสียดายเงินจังทำไมมันแสนแพงแบบนี้ แต่ก็อย่างว่ามันมาไกลก็ให้เค้าหน่อยละกัน ได้โคมมา ครานี้ก็หาที่ลอย ที่ไหนดี?? เพื่อนใหม่บอกว่า แหลมพรหมเทพดีกว่า เราจึงขับรถขึ้นไปอีกรอบ แต่ขึ้นไปไม่ถึงหรอกค่ะ เราจอดตรงป้าย ที่บอกว่า "แหลมพรหมเทพ 1 กม." ตรงนี้แหละทำเลดี โล่งด้วย กว่าจะจุดจนลอยได้ เราต้องลากโคมเข้าข้างทางหลายครั้ง เพื่อหลบรถยน กว่าจะได้ลอยกัน นานพอสมควร ถ่ายรูปเล่นกันขำๆไป เป็นที่สนุกสนาน
ตอนขับรถกลับ แผนที่ยังอยู่ในมือทุกคน พอถึงห้าแยก ต่างคนต่างชี้ไปคนละช่องทาง คนขับก็งง กว่าจะหาทางกลับที่พักเจอ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน คืนสุดท้ายที่ภูเก็ตผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนใหม่ชวนฉันไปผับในเมืองที่ชื่อว่า กทม. แต่เห็นทีจะไม่ใช่แนวขอตัวกลับห้องนอนก่อนละกัน ......
เช้าวันอาทิตย์ วันสุดท้ายในภูเก็ต ตื่นมารีบอาบน้ำแต่งตัว เข้าเมืองไปกิน ติ่มซำกับชา ตอนเช้าดีกว่า เตรียมอุปกรณ์ใส่กระเป๋าครบครัน วันนี้ต้องไปถ่าย ตึกเก่าในเมืองภูเก็ตให้ได้ ...เตร่อยู่ในเมืองเพียงคนเดียว สะพายกล้อง 1 ตัว กับกระเป๋าผ้าที่เต็มไปด้วย โปสการ์ด ฉันเดินถ่ายภาพตึกเก่า หน้าบ้านสวยๆ เกสเฮ้า ร้านอาหาร เดินงงๆ อยู่นานสองนาน ในตัวเมืองภูเก็ตเงียบมาก เงียบจริงๆ หรือว่าฉันตื่นเช้าไป? มีคุณลุงคนหนึ่ง หยุดถามว่าฉันถ่ายรูปไปทำข่าวเหรอ? ฉันยิ้ม..เปล่าค่ะ ถ่ายไปลงเวปไซค์ค่ะลุง แล้วคุณลุงก็เดินผ่านไป คุณป้าคนหนึ่งออกมาจากบ้าน แนะนำฉันว่าตรงไหนมีอะไรบ้าง ให้ฉันเดินไปสำรวจ ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับน้ำใจ
เดิน..เดิน..แล้วก็เดิน อย่างไรจุดหมาย จนไปสะดุดกับร้านๆหนึ่ง "หนังสือ ๒๕๒๑" ว้าว ได้ละที่เขียนโปสการ์ด ดูๆ ทีแรกไม่แน่ใจว่าร้านอะไร เดินเข้าไปถามว่า "ขายกาแฟป่าวค่ะ?" คำตอบคือ"ใช่คับ" พ่อค้าน่ารักเนอะ อิอิ สั่งม๊อค่าเย็น 1 แก้ว แล้วก็เริ่มปฏิบัติการเก็บภาพร้านโดยทันที ร้านนี้มีหนังสือขาย มีให้อ่าน มีหนังนอกกระแส ประมาณหนังอาร์ทวางอยู่ตามชั้น เปิดเพลงสบายๆ ฉันนั่งอยู่นานสองนานเลยแหละ กาแฟเย็นมาเสริฟ น้องเค้าบอกว่า วันนี้มี ชีสพาย รับไหม๊ครับ .. มันก็ต้องได้อะน่ะ น้องเค้าเลยยกมาให้ 1 ชิ้น แล้วก็คิดออกว่า อ้าวตูมีเงินอยู่ 140 จะพอจ่ายไหม๊เนี่ย เดินอยู่ในเมืองนานสองนาน ยังหาตู้ ATM ไม่เจอเลย นั่งเขียนโปสการ์ดจนครบทุกใบ กินพายเกือบหมด ที่ไม่หมดไม่ใช่ไม่อร่อย แต่เพิ่งซัดติ่มซำมาซะเต็มคราบ ถ้าเจ้าของร้านเข้ามาอ่าน ขอบอกว่า พายอร่อยค่ะ แต่พอดีเราอิ่มอยู่เลย
|
 |
ร้าน"หนังสือ ๒๕๒๑" เป็นร้านที่น่ารักมากๆค่ะ โชคดีจังที่เดินไปเจอเข้าโดยบังเอิญ มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะ ร้านนี้อยู่ ถนน อะไรน่ะเหรอ ในนามบัตรเขียนว่า Talong Rd. ไปแปลกันเอาเองน่ะ ฉันก็ไม่กล้าแปลกลัวผิด
บอกเจ้าของร้านคิดค่าเสียหาย แล้วบอกเค้าไปว่าอย่าคิดแพงเดี๋ยวเงินไม่พอจ่าย .. ทั้งหมด 90 บาท เฮ้อ...โล่งอก นึกว่า 140 บาทจะไม่พอจ่ายซะแล้ว เจ้าของร้าน เอาสมุดเยี่ยมมาให้เซ็น ตามธรรมเนียมก็จัดให้อย่างไม่ขัดเขิล โปรโมทชมไทย โปรโมทเวปตัวเองเรียบร้อย ฉันถามสองหนุ่มในร้านว่า มีตรงไหนสวยๆน่าถ่ายรูปบ้างค่ะ ค่ำตอบคือ คนหนึ่งชี้ไปทางซ้าย คนหนึ่งชี้ไปทางขวา เอ่อ...แล้วต้องไปทางไหนเนี่ย ฉันหัวเราะ พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณแล้วเก็บของเดินออกมา ...
เดิน..เดิน..เดิน จนมาถึงท่ารถ ภูเก็ต-ป่าตอง นั่งรถไปป่าตองไปหาเพื่อนใหม่ที่กำลังรอให้เราไปสมทบอยู่ เพื่อเตรียมจะไปเที่ยวตอนเย็นก่อนขึ้นเครื่องกลับ แต่อุปสรรค ก็เกิดขึ้นอีก กุญแจรถเช่าหาย วุ่นวายกันพักใหญ่ ใหญ่มากจนหมดเวลาเที่ยว แต่ยังพอมีเวลาไปนั่งกินข้าวเย็นที่ หาดในทอน ใกล้ๆสนามบิน หาดนี้เป็นหาดที่สงบมาก แตกต่างจาก ป่าตอง สิ้นเชิง ร้านอาหาร โต๊ะตั้งไว้บนทราย และอาหารก็อร่อยมากๆ เรารีบสั่งรีบกินเพราะกลัวตกเครื่อง รีบจากหาดในทอนในเวลาอันรวดเร็ว ...

เวลาในภูเก็ต 2 คืน 2 วัน ฉันไม่ได้อะไรมากมายนัก นอกจากได้อยู่กับตัวเอง อ่อ ได้เพื่อนใหม่มาด้วยหลายคน ไปเกาะๆเค้าเที่ยวอยู่ สองวัน มาภูเก็ตต้องใช้เงินมาก เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่ มันก็คงเป็นธรรมดา ฉันหาทางจะไปอุทยานแห่งชาติ สิรินาถ แต่ก็พลาดไป เพราะมัวแต่ไปยุ่งกับเรื่องรถเช่า เสียดายที่ไม่ได้ประทับตราที่สมุด
และอีกอย่างที่คิดอยู่ตลอดเวลาก็คือ คิดถึงเพื่อนชมไทย มีหลายๆกลุ่มอยู่ที่ ภูลังกา บางกลุ่มไปอยู่ที่เชียงใหม่ บางคนนอนอยู่ กรุงเทพ การมาเที่ยวแบบนี้มันก็เหงาดีเหมือนกันเนอะ ทำให้รู้ว่า หลายหัวดีกว่าหัวเดียวซะอีก แต่ก็อีกน่ะ เพื่อประสบการณ์ในที่ใหม่ๆ แยกๆกันไปบ้างก็ดี ...
สัญญาว่า จะไม่หนีไปคนเดียวอีก ((ถ้าไม่จำเป็น)) ฮ่าๆๆ

เชอรี่ ณ ชมไทย
รวมภาพการเดินทางทริปนี้
http://www.chomthai.com/forum/view.php?qID=271
เรื่องเล่าอื่นๆ
เที่ยวเมืองภูเก็ตยังไงให้คุ้มค่าที่สุด
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมภูเก็ต
http://travel.sanook.com/south/phuket/index.php
http://www.phuket.go.th/
http://www.andamanonline.com/th/
http://www.phangngacity.com/