
ชลบุรี : ทะเลงาม ข้าวหลามอร่อย อ้อยหวาน จักสานดี ประเพณีวิ่งควาย
ตั้งชื่อเรื่องซะตื่นตาตื่นใจ เดี๋ยวใครก็ไปตามหาเกาะสีชังจำลองจริงๆ พอหาไม่เจอแล้วก็กลับมาตำหนิเราว่ามีที่ไหนเกาะสีชังจำลอง อิอิ....ไม่มีหรอกจ้า จริงๆ คือว่า ทริปนี้ฉันไปตะลอนเกาะสีชังมา และเวลาก็เหลือเฟือ เลยหาที่เที่ยวแถวๆ ย่านนั้นซะเลย ซึ่งก็มี เมืองจำลองที่พัทยาเหนือ และ Ripleys
Believe It or Not! ที่พัทยาใต้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของแปลกจากทั่วทุกมุมโลกที่ คุณ โรเบิร์ต ริบลีส์ ได้เดินทางไปเสาะแสวงหามา อีกทั้งยังเป็นของแปลกต่างๆ ที่น่าเชื่อบ้าง ไม่น่าเชื่อบ้าง มาจัดวางไว้ให้เราได้ชมกัน..เอาเป็นว่าก็ชมกันแบบบันเทิงๆ ละกันนะคะ เพราะฉันก็ไม่ทราบว่า สิ่งที่เค้ามาแสดงนั้นน่ะ มีอะไรบ้างที่จริง และมีอะไรบ้างที่ไม่จริง แต่ที่จริง และแน่นอนที่สุดคือฉันหน้าแตก เพราะโดนหลอกใน Ripleys ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ไม่ซีเรียสนะ ขำขำ หลอกแบบน่ารักๆ น่ะ สนุกดี...
การตะลอนของฉันครั้งนี้ ก็มีเป้าหมายอยู่ที่ไล่เก็บ RC แหม..!! ทำยังกะเล่นแรลลี่...เพราะหน้าร้อนนี้ฉันกะว่าจะตะลอนเที่ยวทะเลใกล้กรุง หรืออาจจะไกลกรุงนิดหน่อย รวมทั้งเก็บภาพและเรื่องราวการเดินทางของฉันมาฝากเพื่อนๆ เพื่อเป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยวทะเลในช่วงฤดูร้อนกัน อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ฉันหวังไว้ว่าอย่างนั้นนะ...และครั้งนี้ฉันเริ่มต้นที่ เกาะสีชัง เป็นเกาะใกล้กรุงที่สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้เลย ถ้าใครที่อยากเที่ยวทะเลสวยๆ แต่มีเวลาไม่มาก ฉันว่าเหมาะที่สุด...ไม่มีไฟเขียว ไฟแดง ให้ปวดหัวใจด้วย ทะเลที่สีชังอาจจะไม่สวยมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายซะทีเดียว น้ำก็ใสดี แต่ชายหาดที่สามารถเล่นน้ำได้นั้น มีแค่แห่งเดียวคือที่หาดถ้ำพัง ซึ่งเป็นชายหาดสั้นๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้น ใครที่มาสีชัง ก็คงต้องซึมซับกับบรรยากาศของทะเลอย่างเดียว หากหวังจะเล่นน้ำทะเลด้วย คงไม่สนุกเท่าไร
ฉันเคยได้ยินชื่อ เกาะสีชัง มานานมากแล้ว เป็นสถานที่ ที่มีชื่อเสียงมาก แต่ปัจจุบันอาจถูกมองข้ามไป...คงเป็นเพราะ สีชังนั้นอยู่ใกล้กกรุงเกินไป เวลานึกถึงทะเลหลายคนก็นึกข้ามเกาะสีชังไปทุกที รวมทั้งฉันเองด้วย เลยไม่เคยได้มาเยือนสีชังสักที ครั้งนี้แหละที่คิดสั้นๆ ไม่ต้องคิดยาว ความคิดมันเลยมาหยุดที่สีชังจนได้...ไม่เคยคิดว่า เกาะที่อยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมง อย่างเกาะสีชัง จะให้ความประทับใจกลับบ้าน มากมายขนาดนี้ เราสามารถมาที่เกาะ และเที่ยวในวันเดียว มาเช้ากลับเย็น ยังทันเลย สำหรับคนกรุงเทพฯ ค่ารถก็ไม่แพงถ้าชั้น 2 ก็อยู่ที่ 69 บาท ชั้น 1 ราคา ร้อยกว่าบาทเท่านั้น ค่าเรือข้ามไปเกาะก็ 40 บาท เห็นมั้ยล่ะ ว่าไปง่ายแค่ไหน...ส่วนฉันนั้นเลือกนั่ง ป.2 จริงๆ ไม่ได้เลือกหรอก แต่ข้อมูลไม่แน่นน่ะ เห็นว่าอยู่ใกล้ๆ ไปยังไงก็ได้เลยประมาทไปนิด จะบอกว่าโดนหลอกคงจะได้มั้ง เพราะโดนเด็กรถหลอกว่ารถเต็ม แถม ป.1 ไม่มีอีกต่างหาก ตอนนั้นน่ะไม่เชื่อนะ แต่ที่ซื้อตั๋วเพราะเห็นว่าเวลามันก็ล่วงเลยมามากแล้ว หากจะเดินหาซื้อตั๋วอีกก็คงเสียเวลา แต่ที่ไหนได้ เฮ้อ...ล้อหมุนบ่าย 3 โมงครึ่งจากขนส่งเอกมัย ทายซิว่าฉันไปถึงศรีราชากี่โมง ทายไม่ถูกใช่มั้ยล่ะ นับเวลาดูแล้วรถวิ่งจาก กรุงเทพ ถึง ศรีราชา เกือบ 4 ชั่วโมง อย่าเพิ่งตกใจ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นในเมืองไทย ป.2 รถจอดตลอดทางเพื่อรับคน นี่คือประสบการณ์ครั้งแรกของฉันกับรถ ป.2 ไม่ซีเรียสอีกเช่นเคย หากมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ขำขำ เพราะเรือข้ามไปเกาะสีชังหมดตอน 2 ทุ่ม เวลายังเหลือเยอะแยะ ไม่ต้องกลัว..จากศรีราชา ฉันนั่งตุ๊กตุ๊ก ต่อไปท่าเรือ 40 บาท แพงมั้ย คงไม่แพงมั้ง ฉันว่านะ...จัดการซื้อตั๋วเรือข้ามเกาะเรียบร้อย เรือก็เป็นเรือเมล์ ลำเล็กๆ นะไม่ใหญ่มากใช้เวลาแล่นจากฝั่งถึงเกาะ ราวๆ 45 นาที แล้วแต่คลื่นลม...
พอถึงเกาะสีชัง คงดึกมากแล้ว เพราะทุกอย่างมืดสนิท แต่ความวุ่นวายยังคงมีอยู่ งงมั้ย อย่างงเลย ก็พวกรถสองแถวบ้าง มอร์เตอร์ไซด์รับจ้างบ้าง มาร้องหาลูกค้า เพื่อพาไปหาที่พัก หรือพาไปตามสถานที่ต่างๆ สุดแล้วแต่ลูกค้าจะบัญชา....อ้อ...รถมอร์เตอร์ไซดต์รับจ้างที่นี่ แปลก ไม่รู้แปลกมั้ย แต่ฉันว่าแปลก เป็นมอร์ไซต์ที่ดัดแปลง มีที่โดยสารต่อพ่วงให้ลูกค้านั่ง สบายดี ลักษณะคล้ายๆ กับตุ๊กตุ๊ก ในกรุงเทพฯ คนบนเกาะเค้าเรียกว่ารถสกายแล็บ....ฉันเดาเอานะ ไม่รู้ว่าจริงมั้ย คงเป็นการวิ่งที่เร็วจี๋ของเจ้ารถคันนี้นั่นแหละ ชาวบ้านเลยเรียกว่า สกายแล็บ ซึ่งน่าจะมาจาก ฟ้าแล่บ นั่นเอง..แต่อ่านแล้วจะกลัวเจ้ารถนี่ซะก่อน จริงๆ ก็ไม่ได้วิ่งเร็วขนาดนั้นหรอก..สบายๆ น่ะ...ฉันกับเพื่อนมาถึงสีชังก็ดึกมากแล้ว พากันตระเวนหาที่พักกว่าจะได้ จริงๆ แล้วต้องบอกว่าไม่ได้หรอก เพราะที่พักเต็มหมด สงสารคนขับรถน่ะ ต้องขับพาเราตระเวนหาที่พัก แถมทางก็เปลี่ยวอีกต่างหาก ไม่มีไฟส่องทางเลย อันนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหามันดันอยู่ตรงที่พี่คนขับกลัวผีเอามากๆ ซะงั้น บอกว่าบนเกาะผีดุมาก น่ากลัว! ฉันนึกในใจ พี่กลัวแล้วจะพูดทำมั๊ย...กลัวคนเดียวไม่พอ แบ่งปันความกลัวมาให้ฉันกับเพื่อนอีกต่างหาก ฉันเลยตัดสินใจเช่าเต็นท์นอนที่ชายหาดถ้ำพังซะเลย ไม่ต้องไปหามันแล้วที่พัก อย่างว่านะมาช่วงคนเยอะต้องทำใจนิดนึง อีกอย่างช่วงที่ฉันมาก็ตรงกับช่วงมิวสิคเฟสติวัล ของพัทยา ไม่รู้เกี่ยวกันมั้ย แต่ที่พักบนเกาะเต็มอ่ะ แถมขากลับ กว่าจะได้ขึ้นรถก็รอตั้ง 2-3 ชั่วโมงแน่ะ...ไม่เป็นไรขำขำ มาเที่ยวครั้งนี้ ฉันพยายามมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง เพื่อนๆ ว่าจริงมั้ย....

ตอนกลางคืนกว่าจะกางเต็นท์ได้ก็ทุกลักทุเลน่าดู เพราะมันมืดมาก แถมเต็นท์กะเสาเต็นท์ ที่เค้าให้มาดัน คนละอันกัน กว่าจะหาเสาที่ใช้กะเต็นท์นั้นได้เล่นเอาเหนื่อย กินข้าว ล้างหน้าล้างตาเสร็จก็กะว่าจะเข้านอนพักเอาแรงเพื่อเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น ก็ดั๊น...เจอแต่คนเมา เมามันยันเช้าไม่หลับไม่นอน ส่งเสียงดังตะโกนโหวกเหวก อยู่หน้าหาด น่าจับมัดมือมัดเท้าโยนลงทะเลนัก...แต่ก็เอาเถอะ ให้อภัย ฉันนอนฟังเห็นเค้าบ่นว่าอกหัก เพราะโดนหลอก..อือม์ น่าเห็นใจนะ...ฉันสิ้นสติไปตอนเกือบๆ ตี 3 แถมตี 5 ครึ่งต้องลุกแล้ว เพราะเป็นแผนของเพื่อน ที่อยากเดินถ่ายภาพเก็บบรรยากาศยามเช้า...
ทีนี้เรามาดูกันว่าเกาะสีชังมีอะไร....พวกเรา 2 คนเริ่มต้นลาดตระเวนรอบเกาะกันราวๆ 7.30 หลังรับประทานอาหารเช้าอันแสนอร่อยเรียบร้อยแล้ว ที่ได้กินของอร่อยเพราะพี่คนขับรถเค้าพาไปน่ะ อ้อลืมบอก หากเราจะเที่ยวรอบเกาะ ถ้าไม่เช่าจักรยาน หรือมอร์ไซต์ขี่เที่ยวเองแล้วล่ะก็ เค้ามี สกายแล็บบริการเที่ยวรอบเกาะ รอบเล็ก 150 บาท รอบใหญ 250 บาท ตอนแรกฉันงง มีรอบเล็กรอบใหญ่ด้วย คือจริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เราจะแวะเที่ยวในแต่ล่ะแห่งน่ะ 3 ที่ถึง 5 ที่ หรือรอบใหญ่ 250 บาทนั้นอยากไปไหนก็บอกเค้า พาไปได้หมดบนเกาะ อันนี้ฉันว่าดีนะ แถมฉันคงโชคดี เจอคนขับที่เป็นไกด์ได้ด้วย แนะนำสถานที่ต่างๆ ให้เราทราบและยังบอกประวัติคาวมเป็นมาแบบคร่าวๆ ของสถานที่แห่งนั้นให้พวกเราฟังอีกต่างหาก นั่งฟังเพลินไปเลย รอนานเท่าไรก็ไม่บ่น พาไปโน่นไปนี่สุดแล้วแต่เราอยากจะไป...ก็นะ เกาะมันมีอยู่แค่นั้น คงไปไหนไม่ได้ไกลร๊อก..เอาล่ะไปดูกันได้แล้วว่าบนเกาะ มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ...
ที่แรกที่พวกเราไปคือ วัดถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่ นอกจากพวกเราจะไปไหว้พระขอพรเจ้าพ่อเขาใหญ่ที่ปกปักรักษาเกาะสีชังแห่งนี้แล้ว เรายังสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่เห็นความเป็นเมืองของอำเภอเกาะสีชังบนวัดได้อีกด้วย ส่วนรูปแบบของวัดก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน สีสันสวยงาม ซึ่งอันนี้ฉันชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว จากนั้นเราไปต่อกันที่วัดบนเขา (วัดอัษฎางค์นิมิตร) ในพระราชวัง ร.5 ที่นั่นมีสะพานสีขาวยืนลงไปในทะเล เรียกว่า สะพานอัษฎางค์ สวยงามมาก ฉันหลงไหลที่นี่ที่สุด ทะเลสงบ ใส สวย โรแมนติก เสียอย่างตรงที่ร้อนไปหน่อย หากมาช่วงเช้าหรือเย็นคงเยี่ยมไปเลย...ถ่ายภาพจนหนำใจที่สะพานอัษฎางค์ คนขับก็พาเราไปชม สัตว์ทะเลในศูนย์วิจัยฯ ของจุฬาฯ แล้วก็ไปต่อที่ช่องเขาขาด ตรงนี้เป็นที่ชมวิวที่สวยอีกแห่งของเกาะสีชัง มีทั้งดอกไม้ และธรรมชาติที่สวยงาม อีกอย่างที่นี่มีรีสอร์ทไว้บริการ หรือหากใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดก็มีเต็นท์ให้เช่าเช่นกัน นอนฟังเสียงลมเสียงคลื่นที่ช่องเขาขาด ฉันว่าก็น่าจะเข้าท่า...กิจกรรมบนเกาะสีชัง ขี่จักรยานเสือภูเขารอบเกาะท่าจะเหมาะที่สุด เพราะถนนหนทางเป็นคอนกรีต และขึ้นเขาลงเขา คงท้าทายนักปั่นได้ไม่มากก็น้อยทีเดียว...
ตอนแรกฉันคิดว่า จะเหมาเรือข้ามไปดำน้ำชมปะการังที่เกาะค้างคาวสัก ชั่วโมง 2 ชั่วโมง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ เพราะตะลอนคราวหน้า ฉันก็จะไปดำน้ำอยู่ดี คิดไปคิดมา นอกจากทะเลแล้วที่ชลบุรีมีอะไรน่าสนใจอีก แล้วความคิดมันก็มาหยุดตรงที่เมืองจำลอง และพิพิธภัณฑ์ของแปลกของริบลีส์ (Ripleys Believe It or Not!) ได้การ ฉันเลยพาเพื่อนนั่งเรือกลับศรีราชา ต่อรถไปไปพัทยากัน..แต่ด้วยเวลาตอนนั้นจะไปเดินที่เมืองจำลองเลยคงจะได้เกรียมกันทั้งคู่ ไปดูของแปลกก่อนดีกว่า มีห้องแอร์เย็นชื่นฉ่ำสบายอุรา...ที่นี่ค่าบัตรเข้าชมแพงไปหน่อย แต่ก็เอาเหอะ จ่ายค่าความพยายามคิดหาของแปลกมาโชว์ให้เราดู ฉันเลือกซื้อบัตรราคาแพ็คเก็จ คือ 480 บาท เข้าชมได้ทั้ง 4 อย่างในนั้น นั่นคือ บ้านผีสิง ซึ่งสำหรับฉันว่ามันก็งั้นๆ ไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งเพื่อนฉันที่มาด้วยกัน มันกลัวจนฉี่แทบราดในขณะที่ฉันเองรู้สึกเฉยๆ..จากบ้านผีสิงก็เป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ของแปลก ซึ่งก็น่าตื่นตาตื่นใจ มีของแปลกมากมาย ให้เราชมและทดลองเล่น และที่นี่แหละที่ทำฉันหน้าแตก..แบบหมอไม่รับเย็บเลย ใครเข้าไปต้องขอเตือนว่า เค้ามีป้ายเตือนอะไรก็จงเชื่อฟังแต่โดยดี ไม่งั้นนะ ขืนซนจะโดนแบบฉัน ขำขำ สนุกๆ ...จากนั้นเราก็เข้าสู่ดินแดนของเขาวงกรต อันนี้ฉันชอบที่สุด สวย..ฉันว่าคนคิดเค้าสร้างสรรค์ดีนะ มันไม่ยาก และน่ากลัวอย่างที่คิดหรอก แต่มันสวยดี...ต้องลองดูอ่ะ...บอกไม่ถูก...สุดท้ายเราไปดูหนัง 4D กัน ส่วนนี้เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่หัวใจยังเด็ก..สนุกดี ชอบนะ..หากราคาตั๋วเป็นราคาคนไทยฉันว่าคงเป็นที่นิยมกว่านี้เยอะเลย...แต่นี่แพงไปหน่อย...เราเก็บภาพได้แค่ในส่วนของพิพิธภัณฑ์เท่านั้น ส่วนอื่นๆ เค้าห้ามน่ะ เลยไม่ได้เห็นบรรยากาศกัน...เท่านี้แหละกับ Ripleys Believe It or Not!
จากนั้นสิ้นสุดการตะลอนครั้งนี้ที่เมืองจำลอง เราได้แชะ! ภาพสถานที่จำลอง เป็นสถานที่สำคัญๆ ทั้งในไทยและ เกือบรอบโลกนะฉันว่า...สวยดีเข้าใจทำ จริงๆ นี่เป็นครั้งที่2 ที่ฉันได้มาเยือนเมืองจำลอง ครั้งแรกนั้นเมื่อตอนฉันยังเด็กอยู่..ซึ่งก็ไม่นานมานี้เอง (อันนี้ปลอบใจตัวเองน่ะ)..แต่ครั้งนี้ สถานที่หลายๆ แห่งถูกเพิ่มเติมขึ้น ฉันได้ไปเยือน อิตาลี, สหรัฐฯ, ฝรั่งเศส, เกาหลี, จีน, เขมร เยอรมัน, อียิป, สิงคโปร์ ฯลฯ เกือบรอบโลกเลยก็ว่าได้ การมาเที่ยวเมืองจำลอง ขอแนะนำให้มาช่วงเย็น หลัง 6 โมงไปแล้วเพราะอากาศไม่ร้อน เดินชมสบายๆ แถมเค้าประดับไฟสวยงามด้วย แต่ถ้าหากใครอยากผิวเกรียมอย่างฉันและเพื่อนก็มาช่วงที่เรามานี่แหละเหมาะที่สุด...แต่ก็อย่ากลัวจนเกินเหตุ เพราะที่นั่นเค้ามีร่มไว้บริการกับนักท่องเที่ยว ไม่ต้องกลัวร้อน...
จบแล้วการตะลอนชลบุรีของฉันครั้งนี้...มันส์จริงๆ ขอบอก หลายอย่างไม่เป็นอย่างหวัง แต่ก็ทำใจได้กับการไม่คาดหวังอะไรล่วงหน้า...ขากลับอย่างที่บอก คนแน่นมากๆ กว่าจะได้ขึ้นรถกลับก็เกือบๆ 2 ทุ่ม เหนื่อยจริงๆ แต่ก็สนุก....ครั้งหน้าจะไปไหนนั้น ต้องคอยติดตามชมกันค่ะ...

................................................palmy616
ภาพถ่ายจากการเดินทางทริปนี้
http://202.142.215.212/freewebboard/view.php?user=chomthailand&id=481
ภาพถ่ายเกาะสีชังเพิ่มเติม
http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=chomthailand&id=53
ข้อมูลการท่องเที่ยว ที่พักและการเดินทาง
http://www.chomthailand.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=97598&Ntype=5
ส่งข้อความถึงผู้เขียน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม